วันพฤหัสบดีที่ ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๐

สงครามโลกครั้งที่2และประเทศไทย




สงครามโลกครั้งที่ 2 เริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการในยุโรป เมื่อกองทัพเยอรมันเข้ายึดประเทศโปแลนด์ เมื่อวันที่ 1 กันยายน 2482 และประเทศอังกฤษประกาศสงครามกับประเทศเยอรมัน ประเทศไทยซึ่งขณะนั้นเป็นประเทศเอกราชเพียงประเทศเดียวในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งตั้งอยู่ท่ามกลางมหาอำนาจเก่าอย่างอังกฤษ และฝรั่งเศสและมหาอำนาจใหม่แห่งเอเชียบูรพาคือ ญี่ปุ่น ประเทศไทยตระหนักดีว่าสงครามจะต้องขยายมาถึงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเมื่อญี่ปุ่นเปิดฉากสงครามมหาเอเชียบูรพา ด้วยการเข้าตีเพิร์ลฮาร์เบอร์ หมู่เกาะฮาวาย เมื่อวันที่
8 ธันวาคม 2484 และหลังจากนั้นก็บุกเข้ายึดอินโดจีนซึ่งเป็นอานานิคมของฝรั่งเศสได้สำเร็จ และมีอนานิคมของอังกฤษ คือ พม่า มาลายู และสิงคโปร์ รวมทั้งอณานิคมของสหรัฐอเมริกาเป็นเป้าหมายต่อไป การที่จะเข้าโจมตีอาณานิคมของอังกฤษและอเมริกาได้นั้น กองทัพญี่ปุ่นมีความจำเป็นต้องใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่าน รัฐบาลไทยซึ่งมีจอมพล ป.พิบูลสงครามเป็นหัวหน้ารัฐบาลได้พยายามเจรจากับอังกฤษและอเมริกา เพื่อขอความช่วยเหลือในการป้องกันการรุกรานจากญึ่ปุ่น แต่ได้รับการปฎิเสธ ดังนั้นเมื่อญี่ปุ่นเคลื่อนกองทัพเข้ามาในประเทศไทย รัฐบาลไทยจึงไม่สามารถต่อต้านได้ คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้วันที่ 8 ธันวาคม 2484 ยินยอมให้กองทัพญี่ปุ่นใช้ประเทศไทยเป็นทางผ่านไปยังอาณานิคมของอังกฤษได้ โดยได้รับคำมั่นจากรัฐบาลญี่ปุ่นเป็นลายลักษ์อักษรว่าจะเคารพเอกราชอธิปไตยและเกียรติศักดิ์ของไทย

ขณะเดียวกันนั้นในยุโรป ฝ่ายอักษะก็กำลังได้รับชัยชนะเหนือฝ่ายพันธมิตร และในเอเชีย กองทัพญี่ปุ่นก้ได้ยึดครองอาณานิคมของมหาอำนาจตะวันตกได้อย่างต่อเนื่อง ทำให้ท่าทีของรัฐบาลไทยโน้มเอียงมาทางญี่ปุ่นมากขึ้น
และในที่สุดก็ได้ละทิ้งความเป็นกลางและทำสัญญาพัธมิตรร่วมรบกับญี่ปุ่น ในสงครามมหาเอเชียบูรพา ในวันที่ 21 ธันวาคม 2484 และประกาศสงครามกับอังกฤษและสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 25 มกราคม 2485 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่สงครามมหาเอเชียบูรพารวมเป็นส่วนหนึ่งของสงตรามโลกครั้งที่ 2 อย่างไรก็ตาม ม.ร.ว.เสนีย์ ปราโมทย์ อัครราชฑูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ประกาศต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น ไม่ยอมรับการตัดสินใจของรัฐบาลจอมพล ป.พิบูลสงคราม ในที่สุดจึงมีการแต่งตั้งขบวนการเสรีไทยขึ้นเพื่อดำเนินการทางการเมือง และทางทหาร ทั้งในประเทศและนอกประเทศ เพื่อที่จะให้ประเทศไทยไม่ต้องตกอยู่ในฐานะศัตรูกับฝ่ายสัมพันธมิตร ทั้งๆที่รัฐบาลไทยได้ประกาศสงครามกับฝ่ายสัมพันธมิตรไปแล้ว ในขณะเดียวกัน พระมนูเวทวิมลนาท (เบี๋ยน สุมาวงศ์) อัครราชฑูตไทยประจำกรุงลอนดอนในขณะนั้น ได้ปรามนักเรียนไทยในอังกฤษไม่ให้ต่อต้านการตัดสินใจของรัฐบาล
อย่างไรก็ดี ม.จ.ศุภสวัสดิ์วงศ์สนิท สวัสดิวัฒนะ ได้ติดต่อประสานงานกับทางการอังกฤษ เพื่อแสดงเจตนารมย์ที่จะต่อต้านการรุกรานของญี่ปุ่น และยืนยันว่าการประกาศสงครามกับพัธมิตรของรัฐบาลไม่ได้เป็นไปตามเจตนารมย์ของประชาชนชาวไทย พร้อมทั้งได้ทำหนังสือเสนอต่อนาย วินสตัน เชอร์ชิล นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แล้วจากนั้นได้ก่อตั้งกองทหารสู้รบกับญี่ปุ่น ในประเทศไทย และทำให้เกิดเสรีไทยสายอังกฤษขึ้น
ในประเทศไทย ถึงแม้ว่าคนไทยส่วนใหญ่จะประนามการรุกรานของญี่ปุ่น แต่คนไทยส่วนหนึ่งก็ให้ความร่วมมืออย่างดีกับกองทัพญี่ปุ่นและได้รับผลประโยชน์ต่างๆเป็นการตอบแทน และหากจะพูดให้เป็นธรรมแล้ว ทหารญี่ปุ่นก็ไม่ได้เข้ามาวุ่นวายกับวิถีชีวิตประจำวันของคนไทยมากนัก แต่ความยากลำบากที่เกิดขึ้นจากสงครามครั้งนี้ หรือการที่คนไทยต้องบาดเจ็บล้มตายจากการที่ถูกเครื่องบินของฝ่ายอังกฤษและอเมริกาทิ้งระเบิดโจมตีที่ตั้งของกองกำลังทหารญี่ปุ่น ทำให้คนไทยเกลียดชังญี่ปุ่นมากขึ้นทุกที
สงครามโลกครั้งที่2 สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม 2488 โดยฝ่ายสัมพันธมิตรมีชัยเหนือฝ่ายอักษะโดยเด็ดขาด และมีผลให้ประเทศญี่ปุ่นตกเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ในสงคราม ในขณะที่ประเทศไทยได้รับการยกเว้นเพราะการต่อสู้ของจบวนการเสรีไทย
<ข้อมูลจากหนังสือ 1เสรีไทย : อุดมการณ์ที่ไม่ตาย จัดทำโดย อนุวรรณการฝ่ายจัดทำหนังสือที่ระลึกคณะกรรมการดำเนินงานเปิดอาคารเสรีไทยอนุสรณ์โดย วันชัย ตันติวิทยาพิทักษ์ บรรณาธิการ 2 A History of Thailand โดย Rong Sayamanamda .M.A(Cantals)>

1 ความคิดเห็น:

ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า...

ได้ความรู้ดี>